
Layout ห้องนี้เป็นห้องมุมขนาด 66 ตร.ม. ที่มีความโดดเด่นด้วยการวางแปลนแบบยุบยื่นลดหลั่นกัน รวมทั้งมีการบิดผนังเฉียง เปิดรับมุมมองกว้างๆ ของวิวแยกพระราม 9 ห้องนี้จึงมีช่องเปิดเยอะ สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้มาก และได้บรรยากาศภายในที่มีความโปร่งโล่ง
การออกแบบเป็นสไตล์ Modern Luxury ที่ให้ความเรียบหรู ดูดี มีระดับ ขณะเดียวกันก็ยังได้ความนุ่มนวลและกลมกลืน จากการเลือกใช้วัสดุคุมโทนสีกลาง ๆ ไม่เคร่งขรึมหรือฉูดฉาดจนเกินไป หลัก ๆ จะเน้นใช้วัสดุโทนสีเทา ขาว ครีม สอดแทรกด้วยวัสดุ High Gloss มันวาว ที่แสดงความหรูหรา เช่น เส้นอลูมิเนียมสีทอง แผ่นผนังกระจก และผนังหินอ่อน
วัสดุที่เลือกใช้จะถูกคุมโทนด้วยสีทางเดียวกัน แต่ในดีเทลนั้นแอบผสมผสานไปด้วยวัสดุที่หลากหลาย จึงทำให้ห้องเกิดความน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ ไล่ตั้งแต่วัสดุพื้นในโซนทางเดินเข้าห้อง ที่ใช้เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีอบอุ่น กลมกลืนเข้ากันได้ดีกับสีพื้นไม้ในโซนหลักด้านใน ส่วนผนังคุมภาพรวมด้วยวอลเปเปอร์สีเทาอ่อนๆ มีความสว่างแต่นุ่มนวล ตัวพื้นผิวมีลักษณะคล้าย
เป็นเส้นใย Fablic ทำให้มอบสัมผัสที่ไม่ดูเรียบเฉยจนเกินไป ในขณะที่วัสดุหน้าบานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ทั้งตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า รวมไปถึงบานประตู จะเลือกใช้สีโทนเทาที่เข้มขึ้น ทำให้ดูโดดเด่น
ในบางตำแหน่งของผนังจะแอบแทรกจังหวะด้วยแผ่นกระจกเงา กับ เส้นขอบอลูมิเนียมสีทองซึ่งจะคอยช่วยสะท้อนแสงไฟ ขับความระยิบระยับ และเพิ่มความหรูหราให้ตัวห้องมากขึ้น นอกจากนี้การทำผนังที่เป็นเงาสะท้อนยังมีส่วนช่วยในการทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น เช่น ในส่วนโถงทางเดินที่แคบก็จะเน้นใช้ผนังแบบนี้ตลอดแนวนั่นเอง
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้างบรรยากาศในห้องคือเรื่องของ Lighting ซึ่งข้อดีของห้องนี้คือการมีช่องเปิดกว้างอยู่แล้ว ทั้งในโซนห้องนั่งเล่น และโซนห้องนอนทั้ง 2 ห้อง การดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ จะมีส่วนทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่น โปร่งโล่งและมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันในส่วนที่อยากให้แสดงความหรูหรา ก็มีการออกแบบดีเทลซ่อนไฟแบบ Indirect Light เอาไว้ในตามขอบมุมต่าง ๆ ของผนังและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งการใช้แสงและเงาอย่างลงตัวนั้นจะเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยในการขับเอกลักษณ์ของวัสดุต่าง ๆ ที่เราเลือกใช้ ให้ดูโดดเด่น สวยงามมากขึ้น แม้แต่ดีเทลบนฝ้าเพดาน ก็มีการออกแบบโดยการเจาะหลุมแล้วเดินเส้นรางไฟ LED ให้เป็นมีลักษณะเสมือนเป็นเส้นขอบ ล้อเลียนไปกับเหลี่ยมมุมของ Space ภายในห้อง ทำให้เกิดเสน่ห์ความน่าสนใจมากขึ้น
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ที่เน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ การออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่มีขนาดพอดีกับห้องจะทำให้เราสามารถดึงศักยภาพของ Space ในห้องออกมามาใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าและลงตัวมากที่สุด เช่น มุมห้องนั่งเล่นแนวเฉียงซึ่งจะมีจุดที่เป็น Waste Space สามเหลี่ยม เราก็ทำการออกแบบชั้นวางปิดมุมนั้น ทำให้ไม่เสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์
หรือในมุมเล็ก ๆ ข้างห้องครัว ก็ทำการทำตู้เป็นชั้นวางสินค้า และสร้างให้เป็นมุมสำหรับนั่ง Live ขายของตอบโจทย์ไลฟ์ สไตล์เจ้าของห้อง ส่วนการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่าง ๆ ก็จะช่วยในการสร้างบรรยากาศและสไตล์ให้กับห้อง เฟอร์นิเจอร์เราจึงเน้นรูปแบบที่มีความ Modern เรียบง่าย ใช้วัสดุที่หรูหราดูดี ขณะเดียวกันก็ต้องคิดถึงประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม อย่างเช่นชุดเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่น ก็ต้องเลือกที่มีขนาดกะทัดรัด ต้องวางแล้วไม่เกะกะ มีความลงตัวกับ Space ในห้องและสนองไลฟ์สไตล์ของเจ้าของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวด้วย